เขาได้รับแรงบันดาลใจจากรอยสักบนแขนของกะลาสี Reynolds ใช้สมอเรือเป็นเครื่องหมายของแบรนด์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการมาถึงอย่างปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ แบรนด์ Anchor จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
เรย์โนลด์ขาย Anchor ให้กับ New Zealand Dairy Association ซึ่งรวมถึงโรงงาน 8 แห่งที่ตั้งอยู่ใน Waikato, Bay of Plenty, และ Taranaki ซึ่งผลิตเนยประมาณ 300 ตัน
มีผลิตภัณฑ์นมของนิวซีแลนด์ที่ส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรถึง 90% โดยที่ Anchor เป็นเนยขายดีที่สุด
Anchor เป็นแบรนด์ที่มีสโลแกนที่เป็นที่รู้จัก เช่น "แบรนด์เนยชั้นนำที่เป็นที่นิยมมากที่สุดจากทุ่งหญ้าที่สวยงามที่สุดของโลก" และ "สดชื่นดั่งสายลม บริสุทธิ์ดั่งแสงอาทิตย์"
Dairy Research Institute of New Zealand ก่อตั้งขึ้นเพื่อบุกเบิกการใช้เทคโนโลยีและสนับสนุนความก้าวหน้าในการผลิตนม ต่อมาได้กลายเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาฟอนเทียร่า
สินค้าหลากหลายแบรนด์ถูกยกเลิกขาย เนื่องจากภาวะสงคราม ด้วยการส่งออกที่ลดลงอย่างมาก Anchor จึงเพิ่มความหลากหลายและขยายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมไปถึงชีส
ในนิวซีแลนด์ เทคโนโลยีใหม่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของน้ำมันเนย ทำให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ครีมต่างๆไปยังกองทหารที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งได้
รถขนส่งนมต้นแบบเกิดขึ้นครังแรกในฟาร์มทั่วนิวซีแลนด์เพื่อการเก็บรักษานมสด
นโยบายจำกัดปริมาณสินค้าในสหราชอาณาจักรสิ้นสุดลง และผลิตภัณฑ์ของ Anchor ได้กลับมาขายในร้านค้าต่าง ๆ อีกครั้ง
Anchor สร้างนวัตกรรม คิดค้นผลิตภัณฑ์ครีมแบบยูเอชทีในกระป๋องสเปรย์ เขย่าวงการทั่วโลก
เนื่องจากมีการยกเลิกกฎหมายการควบคุมการจำหน่ายนมในเมือง (Deregulation of town milk) การจัดจำหน่ายนมขวดแก้วจึงได้ถูกยกเลิก นมแองเคอร์จึงได้มีโอกาสขยายตลาดมากขึ้น
Fonterra Co-Operative Group Limited ก่อตั้งขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการ Kiwi Co-Operative Dairies กับ New Zealand Dairy Group มีเกษตรกรเป็นเจ้าของ 10,500 ราย ปัจจุบันเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
เปิดตัว นมแองเคอร์ ยูเอชที ครั้งแรกในเมืองไทย
แองเคอร์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์นมแองเคอร์ บิวเต้ และแองเคอร์ แอคทิฟ ไฟเบอร์ เป็นครั้งแรกในเมืองไทย เจาะกลุ่มคนเมือง ที่มีวิถีชีวิตรีบเร่ง ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ ตอบรับกระแสการดูแลความสวยความงามผ่านอาหาร และกระแสการดูแลสุขภาพทางเดินอาหารที่กำลังมาแรงในประเทศไทย